โดยทั่วไปเรารู้ว่าวาฬมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการหมุนเวียนแร่ธาตุในมหาสมุทร
โดยเฉพาะการหมุนเวียนในแนวตั้ง เพราะวาฬใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในทะเลลึก
แต่ที่น้ำลึกความดันจะสูง วาฬจึงต้องขึ้นมาถ่ายมูลในระดับน้ำตื้น
ขี้วาฬอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและไนโตรเจนจากใต้ทะเลลึก
จึงเท่ากับเป็นการนำแร่ธาตุสำคัญมาเติมให้แก่แพลงตอนพืช
ที่อาศัยบริเวณใกล้ผิวน้ำ
แพลงตอนพืชในทะเลทำหน้าที่เหมือนพืชบนบก
คือ ดึงเอาคาร์บอนไดอ็อกไซด์ออกจากอากาศผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง
แล้วปล่อยออกซิเจนออกมาให้กับโลก
ออกซิเจนที่แพลงตอนพืชผลิตขึ้นมีปริมาณมาก
คิดเป็นครึ่งหนึ่งของออกซิเจนทั้งหมดที่มีในชั้นบรรยากาศเลยทีเดียว
จึงไม่ผิดที่บอกว่าทุกลมหายใจที่สองที่เราสูดเข้าไป
#เราต้องขอบคุณมหาสมุทรแพลงตอนและวาฬ
กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่สร้างออกซิเจนเท่านั้น
ยังมีแพลงตอนสัตว์คอยกินแพลงตอนพืชอีกต่อหนึ่ง
ซึ่งเมื่อแพลงตอนสัตว์เหล่านี้ตายลง
ก็จะจมดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทร เป็นการดึงคาร์บอนไดออกไซด์
ออกจากชั้นบรรยากาศที่มีประสิทธิภาพมาก
ราว 1 ใน 3 ของคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมา
มันจะถูกดูดซับไว้โดยมหาสมุทรด้วยกลไกนี้
วาฬจึงเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการขนานนามว่า
#วิศวกรแห่งระบบนิเวศ’ (ecosystem engineer)
เพราะวาฬมีบทบาทอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง
สภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
ในระบบนิเวศ
รู้หรือไม่ ! ในปี 2562 ฉลามวาฬ ได้ถูกบรรจุเป็น สัตว์สงวนชนิดใหม่
ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ร่วมกันอนุรักษ์สัตว์เหล่านี้
หากเราพบเห็น ควรปฏิบัติดังนี้
-ห้ามสัมผัส
-ห้ามใช้แฟลชถ่ายภาพ
-ห้ามโยนสิ่งของหรืออาหาร ลงในน้ำ
-ห้ามตีร้ำแรงหรือกระโดดลงน้ำ
-หากดำน้ำไม่ควรทาครีมกันแดด
-รักษาระยะห่างขั้นต่ำ 5-6เมตร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก The 101.world
Comments